“กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูป” มิติใหม่ทางการเงินจากกรุงศรี คุ้มครองทันที ผ่านขั้นตอนที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

      ธนาคารกรุงศรีอยุธยารุกตลาดประกันชีวิต เปิดตัว “กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูป” มิติใหม่ทางการเงินของกรุงศรี ที่พร้อมมอบความคุ้มครองทันที ลดขั้นตอน เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาในการสมัคร ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ อีกหนึ่งบทพิสูจน์ของแนวคิดและการสร้างสรรค์ประสบการณ์ “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” เพื่อลูกค้าธนาคาร ตั้งเป้าเติบโตด้วยยอดขายทะลุ 500 ล้านบาทในปีนี้

นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝากและการลงทุน และประกันภัย
ธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตมีการเติบโตดี โดยมีอัตราการขยายตัวถึง 19% ในช่วง 2 เดือนแรกของปี ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจในหลายเรื่อง อาทิ ยอดการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสูงขึ้น แนวโน้มการปรับเพิ่มอัตราค่าแรงขั้นต่ำ รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่คงที่”
ในภาพรวม ธนาคารกรุงศรีอยุธยามองว่าธุรกิจประกันชีวิตในปี 2555 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งธุรกิจประกันชีวิตได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยในปีนี้ผลพวงจาก พรบ. คุ้มครองเงินฝากที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคมนี้จะเป็นปัจจัยเร่งให้ผู้บริโภคสนใจหันมาเลือกลงทุนผ่านประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์และตรงใจกับความต้องการของลูกค้าจึงถือเป็นช่องทางและโอกาสที่สำคัญ
“สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยา เรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์อันสอดคล้องกับแนวคิด เรื่องเงิน เรื่องง่าย อย่างต่อเนื่อง โดยกรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูป นับเป็นมิติใหม่ทางการเงิน ที่ลูกค้าเพียงเดินเข้ามาเลือกซื้อประกันชีวิตสำเร็จรูป ซึ่งเป็นประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้น ในอัตราค่าเบี้ยประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องตอบคำถามด้านสุขภาพใดๆ และสามารถรับความคุ้มครองได้ทันที โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้วางเป้าหมายในการขายผลิตภัณฑ์กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูปไว้ที่ 500 ล้านบาทในปีนี้” นายกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติม
กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูปจะช่วยลดขั้นตอน เพิ่มความสะดวกและประหยัดเวลาในการสมัคร เพียงกรอกใบคำขอเอาประกันแบบสั้นเพียง 1 หน้ากระดาษ และชำระเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคารก็สามารถรับความคุ้มครองได้ทันที พร้อมผลตอบแทนสูง และยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนดได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกแผนประกันชีวิตได้ 3 รูปแบบ ตามอัตราค่าเบี้ยประกันรายปีจำนวน 30,000 บาท 40,000 บาท และ 50,000 บาท โดยลูกค้าสามารถชำระเบี้ยประกันรายปีผ่านสาขาของธนาคารกรุงศรีอยุธยาทั่วประเทศโดยมีรายละเอียดดังนี้

• กรุงศรี ไฮบริด อีซี่ พลัส 12/7 สำหรับลูกค้าในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ

ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้นที่คุ้มค่า โดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 7 ปี

รับความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 12 ปี โดยบมจ.อยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี.

• กรุงศรี สมาร์ท การันตี ไลฟ์ 11/5 สำหรับลูกค้าในต่างจังหวัด

ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้นที่คุ้มค่า โดยชำระเบี้ยประกันภัยเพียง 5 ปี

รับความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 11 ปี โดยบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูป ได้ที่ Krungsri Call Center 1572 หรือที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ทุกสาขาทั่วประเทศ

บรรยายภาพ

นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝากและการลงทุน และประกันภัยธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สร้างมิติใหม่ให้กับธุรกิจประกันภัย เปิดตัว “กรุงศรีประกันชีวิตสำเร็จรูป” ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้น ให้ผลตอบแทนสูง ผ่านกระบวนการสมัครที่สั้น กระชับ และรวดเร็ว สามารถรับความคุ้มครองได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพ หรือตอบคำถามด้านสุขภาพใดๆ ลูกค้าที่สนใจสามารถซื้อได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขาทั่วประเทศ



credit : http://www.newswit.com/fin/2012-04-26/40e8d5bbe25ff3320bdf12124355ffb0/

กรุงศรีเปิดตัวแคมเปญรู้ใจ “กรุงศรีรู้ใจ กินฟรีทั้งปี”

    กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

 

       นายแดน ฮาร์โซโน่ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดตัวแคมเปญใหม่ ‘กรุงศรีรู้ใจ กินฟรีทั้งปี’ มอบโชคแก่ลูกค้ากรุงศรีที่ใช้บริการทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์(E-channel) อาทิ ชำระสินค้า บริการหักบัญชีอัตโนมัติ เติมเงินมือถือ หรือสมัครใช้บริการ SMS Banking ในระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม – 31 กรกฏาคมนี้ โดยรับสิทธิ์ลุ้นกินฟรีตลอดปี ณ ร้านอาหารยอดนิยม เอ็มเค เรสโตรองต์ ร้านอาหารในเครือโออิชิ สเวนเซ่นส์ บาบีคิวพลาซ่า ซิซซ์เล่อร์ และเดอะ พิซซ่าคอมพานี ด้วยมูลค่าสูงสุดถึง 52,000 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 1572 Krungsri Call Center

credit : http://www.newswit.com/prop/2012-05-23/ea81b4a9d79047f707ddb9a41ae778a2/

กรุงศรีประกาศการบรรลุก้าวย่างทางธุรกิจที่สำคัญ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรม เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ขยายเครือข่ายสาขาครบ 600 สาขา 4,100 เอทีเอ็ม และยอดสินทรัพย์เติบโตเพิ่มเป็น 1 ล้าน ล้านบาทณ สิ้นไตรมาสสองของปีนี้ เปิดตัว “กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้ ” ผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ชูจุดเด่นดอกเบี้ยพร้อมความคล่องตัวสูงในการเบิกถอน

พัฒนาโครงสร้างเทคโนโลยีพื้นฐาน ลดขั้นตอนและเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงิน พร้อมปรับรูปลักษณ์สาขา ภายใต้กลยุทธ์ “กรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย”
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) วันนี้ ได้ประกาศว่าธนาคาร จะบรรลุก้าวย่างทางธุรกิจที่สำคัญซึ่งประกอบด้วย ขนาดของสินทรัพย์ จำนวนสาขา เครื่องเอทีเอ็ม และ เครื่อง EDC (Electronic Data Capturing) ที่ติดตั้ง ณ สาขา ณ สิ้นไตรมาสสองของปีนี้ เป็นผลมาจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านโครงสร้างเทคโนโลยีพื้นฐาน การลดขั้นตอนต่างๆ ที่ไม่จำเป็น การปรับรูปลักษณ์สาขาภายใต้กลยุทธ์ “กรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย”
มร. มาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยากล่าวว่า “ภายในสิ้นไตรมาสสองของปีนี้ กรุงศรีจะบรรลุก้าวย่างทางธุรกิจที่สำคัญ โดยขนาดสินทรัพย์รวมของธนาคารจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาท จำนวนสาขาเปิดครบ 600 สาขา เครื่องเอทีเอ็ม 4,100 เครื่อง และเครื่อง EDC ที่ติดตั้ง ณ สาขาเพื่อความสะดวกและรวดเร็วที่เพิ่มขึ้นในการเปิดบัญชีใหม่จะครบ 16,000 เครื่อง”
“ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ธนาคารได้ใช้เงินลงทุนไปกว่า 3,600 ล้านบาท ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งประกอบด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบธุรกิจหลักของธนาคาร (Core Banking System) การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ และพัฒนาอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ใช้ ณ สาขา นอกจากนี้ ธนาคารยังได้ปรับรูปแบบและภาพลักษณ์สาขา เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่สำหรับลูกค้าในการมาใช้บริการ” มร. อาร์โนลด์ กล่าว
“การปรับเปลี่ยนทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้อยู่ภายใต้กลยุทธ์ “กรุงศรี เรื่องเงิน เรื่องง่าย” เพื่อลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น รวมถึงปริมาณการใช้เอกสารและกระดาษในการทำธุรกรรม และลดระยะเวลาในการรับบริการที่สาขา ของธนาคาร” มร. อาร์โนลด์ กล่าว
อุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมซึ่งลูกค้าสามารถเห็นได้เด่นชัด อาทิ เช่น เครื่อง EDC ที่ช่วยให้การเปิดบัญชีใหม่ ณ สาขาใช้เวลาเพียง 5 -10 นาทีเท่านั้น นอกจากนี้ธนาคารยังได้ติดตั้งเครื่อง ‘Simple Q’ ที่นอกจากจะเป็นเครื่องกดบัตรคิวอัตโนมัติ ยังอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมฝาก-ถอน โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์มใดๆ เพียงใช้บัตรเอทีเอ็มหรือสมุดบัญชีทำรายการหน้าเครื่อง โดยธนาคารจะติดตั้งเครื่อง ‘Simple Q’ ครบทุกสาขาในกรุงเทพฯ ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนปีนี้
“ด้วยจำนวนสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม การพัฒนาอุปกรณ์และเทคโนโลยีและรูปลักษณ์ใหม่ของสาขา ได้สะท้อนถึงความพร้อมของธนาคารในการขยายธุรกิจและฐานลูกค้าในช่วงครึ่งหลังของปีโดยจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ เริ่มจากผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ “กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” ชูจุดเด่นอัตราดอกเบี้ยและความคล่องตัวสูง” มร. อาร์โนลด์ กล่าว
“การเปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์พิเศษดังกล่าวเพื่อสนับสนุนเป้าหมายของธนาคารในปีนี้ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (CASA) เป็น 45% ของฐานเงินฝากทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้” มร. อาร์โนลด์ กล่าว
“กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์พิเศษที่มอบอัตราดอกเบี้ยสูงเทียบเท่าบัญชีเงินฝากประจำ ผลิตภัณฑ์เงินฝากดังกล่าวได้รับการพัฒนาภายใต้กรอบแนวคิด “เรื่องเงิน เรื่องง่าย”
“กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” จึงมีความคล่องตัวในการเบิกถอนที่มากกว่าผ่านหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นสาขาของธนาคาร เครื่องเอทีเอ็มและช่องทางออนไลน์ (กรุงศรี ออนไลน์) ซึ่งลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมมากขึ้น ด้วยอัตราเปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาท อีกทั้งยังไม่กำหนดยอดเงินคงเหลือขั้นต่ำในบัญชี สามารถถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนบัญชีที่ลูกค้าสามารถเปิดได้ต่อคน พร้อมรับดอกเบี้ยทุกเดือน ด้วยความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ “กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” นี้ ธนาคารคาดว่าจะสามารถดึงดูดยอดเงินฝากได้ประมาณ 50,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เตรียมแผนโฆษณาประสัมพันธ์สำหรับผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์พิเศษดังกล่าวไว้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งรวมทั้งสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ วิทยุ บิลบอร์ด และสื่อออนไลน์อื่นๆ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ “กรุงศรีกรุ๊ป” เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 67 ปี ธนาคารกรุงศรีอยุธยาให้บริการทางการเงินการธนาคาร
อย่างครบวงจร ทั้งในด้านการสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารรวม 600 สาขา และช่องทางการขายกว่า 13,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ ภายใต้บริษัทในเครือกรุงศรี ธนาคารยังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัตรเครดิตมากกว่า 5.3 ล้านบัตร และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้ต่ำผ่านบริษัท ซีเอฟจี เซอร์วิส หรือ ศรีสวัสดิ์ เงินติดล้อ อีกด้วย ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.krungsri.com
เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2550 กลุ่มรัตนรักษ์และจีอี แคปปิตอล ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยปัจจุบัน จีอี แคปปิตอล และกลุ่มรัตนรักษ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารในสัดส่วนร้อยละ 33 และร้อยละ 25 ตามลำดับ

credit : http://www.newswit.com/fin/2012-06-07/5e36c9bb862193590d1b32177d22c0e0/

“กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยและความคล่องตัวสูง

กรุงเทพฯ--6 มิ.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

นายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจเงินฝากและการลงทุน และประกันภัยธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดตัวผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ “กรุงศรี ออมทรัพย์มีแต่ได้” ชูจุดเด่นอัตราดอกเบี้ยและความคล่องตัวสูง สามารถเบิกถอนผ่านหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นสาขาของธนาคาร เครื่องเอทีเอ็ม และช่องทางออนไลน์ (กรุงศรี ออนไลน์) ด้วยอัตราเปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 500 บาท ไม่กำหนดยอดเงินคงเหลือขั้นต่ำในบัญชี สามารถถอนได้ 2 ครั้งต่อเดือน ไม่คิดค่าธรรมเนียม ไม่จำกัดจำนวนบัญชีที่ลูกค้าสามารถเปิดได้ต่อคน

credit : http://www.newswit.com/fin/2012-06-06/9c714eae1796c8c009358f1a7e2aa2c5/

กรุงศรีตั้งเป้าขึ้นแท่น1ใน3ผู้นำธุรกิจSMEs

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 31 พฤษภาคม 2555 18:19

กรุงศรีรุกขยายตลาดธุรกิจเอสเอ็มอี ชูกลยุทธ์เข้าถึงลูกค้าทุกพื้นที่ พร้อมตั้งเป้าขึ้นครองอันดับ 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจเอสเอ็มอี ภายใน 5 ปี
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอี ในบ้านเราเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกอบการอยู่ประมาณ 2.9 ล้านรายทั่วประเทศ ที่สำคัญสัดส่วนของผู้ประกอบการถึง 80% กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด และมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในหัวเมืองต่างๆ ซึ่งถือเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยปัจจัยนี้เองทำให้กรุงศรีมุ่งเดินหน้ากลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างเต็มที่ ภายใต้แคมเปญ "กรุงศรียกทัพ SME บุกทั่วไทย"
นับตั้งแต่ต้นปี กรุงศรีได้เพิ่มจำนวนศูนย์ธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีจำนวนถึง 44 ศูนย์ธุรกิจ ซึ่งกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อทำหน้าที่ให้ข้อมูลและคำปรึกษาทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการได้อย่างทั่วถึง นอกเหนือจากการรับบริการผ่านสาขาของธนาคารที่ครอบคลุมทั่วประเทศ 600 สาขา พร้อมกันนี้กรุงศรียังได้เสริมทัพเอสเอ็มอี ผ่านการพัฒนาบุคคลากร ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อให้เราตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการภายใต้แนวคิด “เรื่องเงิน เรื่องง่าย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
"ภายใต้กลยุทธ์เชิงรุกของกรุงศรี SME ที่สอดคล้องกับแนวโน้มและทิศทางธุรกิจ เสริมด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจ และบริการที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง กรุงศรีมั่นใจว่าจะสามารถก้าวขึ้นแท่นอันดับ 1 ใน 3 ผู้นำด้านธุรกิจ SME ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยเราจะเดินหน้าขยายฐานการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้ารายใหม่ และเพิ่มเป็นสัดส่วน 60% ลูกค้าปัจจุบัน 40% ในขณะที่ยอดสินเชื่อจะเติบโตขึ้น 16% หรือมีมูลค่า 181,000 ล้านบาท"นายสยาม กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ กรุงศรีเตรียมจัดทัพมอบข้อเสนอและบริการพิเศษให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั่วประเทศไทยตลอดทั้งปี โดยกิจกรรมแรก "การเข้าถึงแหล่งเงินทุน ปี 2555" ที่กรุงศรีร่วมกับสองพันธมิตร อันได้แก่ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และหอการค้าไทย เปิดบริการ "SME Clinic" เพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำลูกค้าในการขอสินเชื่อ พร้อมกับจัดสัมมนาเชิงธุรกิจ ให้ความรู้ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทั้งศาสตร์และศิลป์ โดยกรุงศรี SME จะยกทัพออกพบปะกับลูกค้าใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ
สำหรับครึ่งปีหลัง กรุงศรีจะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ ของการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ผ่านกิจกรรมสัมมนาในหัวข้อ "ยุทธศาสตร์การค้า และการลงทุน เพื่อความสำเร็จของเอสเอ็มอีไทยสู่ภูมิภาคสัญจร" โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน่วยงานจากภาครัฐ และหอการค้าจังหวัด
ทั้งนี้ในไตรมาสแรก กรุงศรีมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ 3.2% นับเป็นยอดสินเชื่อรวม 161,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลตอบรับที่ดีจากแคมเปญพิเศษอย่าง "กรุงศรีสินเชื่อ ทันใจ" และ "กรุงศรี BIG Bag" ที่ช่วยสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในพื้นที่ประสบอุทกภัยในปีก่อน ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 3% เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันใจ สอดคล้องกับแนวคิด "เรื่องเงิน เรื่องง่าย" อย่างแท้จริง


credit : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20120531/454537/กรุงศรีตั้งเป้าขึ้นแท่น1ใน3ผู้นำธุรกิจSMEs.html

กรุงศรีขายกองตราสารหนี้6เดือนชู3.15%

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์  วันที่ 18 มิถุนายน 2555 13:09

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M24 (KFFIX6M24) อายุโครงการประมาณ 6 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ตราสารหนี้ภาครัฐไทย สัดส่วนการลงทุน 20% ตั๋วแลกเงินออกโดย บ. อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จก. (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20 % ตั๋วแลกเงินออกโดยธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 20 % เงินฝากธนาคาร Union National Bank (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) สัดส่วนการลงทุน 20 % และตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Banco Bradesco SA. สัดส่วนการลงทุน 20% โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 3.15 % ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”

กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M24 (KFFIX6M24) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในกองทุน ตราสารหนี้ เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก รวมทั้งต้องการล็อคผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนตราสารหนี้และสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลา 6 เดือน
นักลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลกองทุนพิ่มเติมได้ที่ บลจ.กรุงศรี จำกัด โทร. 02-657-5757 ต่างจังหวัดโทรฟรี 1-800-226300 หรือติดต่อธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา

credit : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/finance/finance/20120618/457278/กรุงศรีขายกองตราสารหนี้6เดือนชู3.15.html